สวัสดีค่า
หลังจากที่อ่านของคนอื่นมาเยอะมากๆ แล้วก็ได้มีโอกาศมาแชร์ประสบการณ์ของตัวเองซะที
ไม่รู้จะเริ่มยังไง ไม่เคยเขียนอะไรแบบนี้เลย555555
ก่อนอื่นเลย ทริปนี้ก็จะเป็นทริปที่วางแผนไว้เป็นเดือนเลย เก็บเงิน และเรียนและสอบ จองโรงแรมกับ Agoda ครั้งแรก ทั้งกังวล กลัวจะเฟลจากที่เคยอ่านๆมา แต่จะเป็นยังไงนั้นนน มาติดตามกันเลยดีกว่า!
สำหรับทริปนี้ได้วางแผนไว้ว่าจะไป เกาะช้าง - จันทบุรี - ระยอง ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวนั้นเราก็ได้มีการ Pin ไว้ใน Google Map โดยเริ่มจากการเดินทางไปเกาะช้างก่อน
และบล็อคนี้จะพูดถึงเฉพาะแค่ในเกาะช้างแล้วกันเนอะ
และบล็อคนี้จะพูดถึงเฉพาะแค่ในเกาะช้างแล้วกันเนอะ
การเดินทางจะออกจากบางแสน(เค้าเรียนม.บูรพา)
ตั้งใจไว้ว่าจะออกกันประมาณ ตี 3
แต่แฟนมาจากกทม. ถึงบางแสนประมาณเที่ยง ไปหาอะไรทานฆ่าเวลา จนเบื่อว่าเมื่อไหร่จะถึงตี 3 ซะที ดูหนังนู่นนี่นั่น จนเปลี่ยนใจว่า เอาวะ! ออกมันตี 1 เนี่ยแหละ
9 พ.ค. 2560
เดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว ออกจากหอที่บางแสนเวลา 01.30 น.
เส้นทางจะเข้าถนนเลี่ยงเมืองชลบุรี แล้วเลี้ยวเข้าถนนสาย 344 บ้านบึง-แกลง
ขับไปเรื่อยๆแวะปั๊มบ้าง ประมาณ 03.00 น. ก็เข้าจันทบุรี
ซักพักใหญ่ๆ ก็เข้าตราด และถึงท่าเรือเฟอร์รี่เกาะช้าง เวลา 05.00 น.
ท่าเรือเฟอร์รี่ที่มาขึ้น เป็นของท่าเรืออ่าวธรรมชาติ จะใช้เวลาน้อยที่สุด ประมาณ 30 นาทีเท่านั้น
(แล้วแต่ความเร็วของเรือด้วยนะ ลำที่ขึ้นค่อนข้างช้า ขากลับเห็นอีกลำที่สวนกันขับไวกว่า)
ค่าโดยสารตามนี้เลย
(อันนี้ถ่ายตอนขากลับนะคะ ราคาเท่ากันกับขามา)
ตอนแรกตั้งใจจะไปอีกท่านึงค่ะ ที่มีจำหน่ายตั๋วทั้งไปและกลับ ซึ่งจะถูกกว่า แต่ว่าตามกูเกิลมาถึงนี่ก็เลย ไม่เป็นไร แพงกว่า แต่ก็ไวกว่านะ 55555555
เรามาถึง ตี5 ต้องรอเวลาอีกประมาณ 1 ชั่วโมงค่ะ พอถึง 06.00 น. รถที่ต่อคิวก็เริ่มขยับซื้อตั๋วกัน ไม่นานก็ขึ้นเรือ และเรือรอบแรกออกไวมาก ประมาณ 06.15 น. เพราะรถเต็มไว
อากาศตอนเช้ากำลังดีเลย ถึงเกาะช้างประมาณ 06.45 น.
ขับรถยาวๆ มองสองข้างทาง เช้าแบบนี้ไม่รู้จะทำอะไรจริงๆ5555
ขับไปจนถึงจุดชมวิว เราก็แวะกันก่อนเลยจ้า
แล้วเราก็ขับไปเรื่อยๆ เส้นทางค่อนข้างลาดชันเป็นจุดๆ
เอาจริงๆนี่เป็นการมาเกาะช้างครั้งแรก ซึ่งเห็นภาพในเน็ตมาเยอะ ว่ามีหลายหาด แต่จากที่ไปส่วนใหญ่โรงแรมเค้าเอาไว้เป็นหาดส่วนตัวมั้ยอ่ะ อันนี้ไม่รู้จริงๆ หาดที่เดินลงได้ไม่รู้จริงๆว่ามีหาดไหนบ้าง
นอกจากหาดทรายขาวที่มีทางลงหาดสาธารณะชัดเจน แล้วก็มีหาดที่เดินลงไปเป็นหาดหิน แต่บนชายหาดเป็นบาร์ที่ยังไม่เปิด(ยังเช้าอยู่) จำชื่อหาดไม่ได้ง่ะ จะอยู่เลยไก่แบ้มาอีก
แบบนี้
เดินงงๆ ถ่ายรูปนิดนึง แล้วก็ขับเลยไปต่ออีก ประมาณ 08.00 น.
เป็นหาดบางเบ้า ฟินมากกกกก
ท้องฟ้ากำลังใส ทะเลกำลังสวย คนแทบไม่มี
เจอแต่น้องหมาน้อยนอนในหลุมทรายที่ขุดขึ้นมาเอง
แล้วเราก็ย้อนกลับกัน เพราะเริ่มหิวกันแล้ว
ต้องหาอะไรใส่ท้องด่วนจี๋555555
เลือกไม่ได้ว่าจะเข้าร้านไหนที่ประหยัดๆ สุดท้ายมาจบร้านนี้
ค่าเสียหาย 2 คน 2 จาน 120 บาท กระเพราทะเล
ของแฟนเป็นข้าวผัดต้มยำทะเล
หมึกกุ้งชิ้นใหญ่ อร่อยมาก ชอบมากก
ต่อไปก็มุ่งหน้าไปที่น้ำตกคลองพลู ซึ่งไม่ไกลจากร้านข้าวเท่าไหร่
เสียค่าเข้าน้ำตก ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท
ถ้ามีบัตรนิสิต นักศึกษา จะลดเหลือคนละ 20 บาทค่ะ
มีคุณแม่แมวนอนอ่อยอยู่หน้าทางเข้าแหละ
เดินเข้าไปไม่ไกลก็จะเริ่มเป็นลำธาร และเป็นแอ่งน้ำ
เดินเข้าไปยังไม่ทันถึงน้ำตก ก็ตัดสินใจเดินกลับแล้วว
ฝนกำลังมา ท้องฟ้ามืดมาก เลยเดินกลับกันเลย เสียดาย TT
พอออกมากันก็ประมาณ 10.30 น.
ไม่รู้จะไปไหนกันต่อ จะไปน้ำตกอีกที่ก็ไกล ต้องอ้อมเกาะ
ก็เลยตัดสินใจเข้าที่พักไปเลยแล้วกัน
ถ้ายังไม่ให้เช็คอิน ก็จะไปนั่งเล่นหาดก่อน
ถึงที่พักเกือบ 11.00 น.
เข้าไปที่ Reception พนักงานเดินออกมา หน้าตายิ้มแย้ม
แล้วให้เราเช็คอินก่อนเวลาได้เลย น่ารักมาก แต่ต้องรอห้องก่อน
เพราะลูกค้ายังไม่เช็คเอ้าท์ พนักงานให้กรอกข้อมูล
พร้อมเบอร์โทรสำหรับโทรแจ้งเมื่อห้องพักพร้อมแล้ว
แถมยังให้ผ้าขนหนูมาคนละผืน เพื่อไปนั่งเล่นที่ชายหาดได้เลย
เราพักที่
Koh Chang Cliff Beach Resort
เกาะช้าง คลิฟ บีช รีสอร์ท
อยู่บริเวณหาดไก่แบ้จ้า
อยู่บริเวณหาดไก่แบ้จ้า
จองผ่านแอพ Agoda ค่ะ
ตอนแรกจะจองผ่านเว็บ แต่พอดีลองเข้าแอพไปดู แล้วพบว่า
ถ้าจองผ่านแอพราคาจะถูกลงไปอีกประมาณ 100 กว่าบาทเลยนะ!
เลยจัดการกดจองแล้วจ่ายเงินเลย ซึ่งยอมรับว่าแอบหวั่นๆ
เพราะอ่านรีวิวมาเยอะ บางคนก็แฮปปี้ แต่ก็มีอีกเยอะที่เฟล
จากการจองห้องพักจากเจ้านี้ ไม่ว่าจะเป็นไม่มีห้องว่าง
ไม่มีข้อมูลการจอง หรือความเฟลที่เกิดจากที่พัก ได้ห้องไม่ตรงกัน
บลาๆๆ ซึ่งเราโชคดีมากที่ไม่เจออะไรแบบนี้
แต่ที่เจอก็คือ ห้องไม่ตรงกับในรูปภาพในเว็บจ้า
แต่ไม่มีการโวยวายเกิดขึ้นเพราะ ค่อนข้างถูกใจและชอบห้องพักที่ได้
งงเหมือนกันค่ะ เพราะอะไรถึงชอบ เพราะการตกแต่งดูดีกว่าในรูป และที่สำคัญ
อยู่บนเขาที่ติดกับสระว่ายน้ำ Infinity Pool
ที่มีวิวทะเล 180 องศา สวยงามมาก
ถึงจะไม่ได้เป็นห้อง Sea view แต่ก็สามารถเดินออกมาหน้าที่พัก
มานิดหน่อย ก็สามารถชมวิวทะเล ดูพระอาทิตย์ตกได้แล้ว
ถือว่าคุ้มมากๆสำหรับราคาที่ไม่ถึง 1200 บาท
หลังจากเช็คอินก่อนเวลาไปแล้ว
ก็ไปนั่งเล่นที่หาดกันก่อนเพื่อรอเวลาเข้าห้องจ้า
ที่พักจะอยู่ที่หาดไก่แบ้ ลักษณะเป็นหาดส่วนตัวที่เงียบสงบ
บวกกับวันที่ไปคือวันที่คนน้อยมากๆ ฟีลหาดส่วนตัวกันไปเลย
มีชิงช้า ดูมุ้งมิ้ง
ท้องฟ้าจะหม่นๆ เพราะฝนตกอยู่ ลงเม็ดเบาๆ
อันนี้ฝนตกและแดดออกไปด้วย น้ำทะเลเลยสีสวยขึ้นมาหน่อย
ฟินนนนนน
หลังจากนี้ฝนก็ตกหนักประมาณเกือบครึ่งชั่วโมง
ทำให้ต้องหาที่นั่งในร่ม นอนรอฝนหยุดซักพัก
ส่วนคุณแฟน นางออกไปลงทะเลกลางฝนซะเลย
พอฝนหยุดตก แต่ห้องยังไม่ได้ เราก็เริ่มสำรวจรีสอร์ท
อันนี้เป็นสระว่ายน้่ำด้านล่าง เดินเข้ารีสอร์ทมาจะมองเห็นง่าย
อยู่ติดกับห้องอาหาร และอยู่ใกล้ทะเล
แล้วเราก็เดินขึ้นเขากันไป เหนื่อยอยู่นะ
เพื่อไปหาสระว่ายน้ำที่ดึงดูดให้เรามาพักที่นี่
Infinity Pool
เรียกได้ว่าเป็นแลนด์มาร์คและจุดเด่นของที่นี่เลย
หลายคนมาที่นี่จะติดใจจุดนี้ที่สุด
เราก็เป็นหนึ่งในนั้นแหละ
พอถ่ายรูปอะไรเสร็จ ก็เดินกลับลงไปที่หาด
ซักพักพนักงานก็โทรแจ้งว่าห้องเรียบร้อยแล้ว
จึงเดินไปที่ Reception แล้วพนักงานก็พานั่งรถขึ้นเขาไปที่พัก
หน้าทางเข้าห้องพัก
หน้าทางเข้าห้องพัก
เข้ามาจะมีโถงหน้าห้อง ผนังเป็นกระจก ทำให้ดูโปร่งกว้าง ไม่อึดอัด
อ่างล้างหน้าจะอยู่ข้างนอกห้องน้ำ กระจกบานใหญ่โตมาก
สวรรค์ของการถ่ายรูปของสาวๆ
มีเซฟให้ด้วย
ในห้องน้ำก็จะมีกระจกบานใหญ่ติดผนังเหมือนกัน
ทำให้ห้องน้ำดูกว้างมาก ยิ่งมีหน้าต่างแบบโปร่ง ไม่มีม่านด้วยนะ
ตอนกลางคืนแอบไม่กล้าเข้าห้องน้ำ มองออกไปมันมืดไปหมด
กลัวมีอะไรโผล่มา Say Hi
สิ่งที่ด้อยที่สุดของห้องนี้คือ ห้องน้ำ
น้ำจะระบายลงท่อช้ามาก เวลาอาบน้ำทีเหมือนน้ำจะท่วมห้องน้ำ
และสายฉีดน้ำที่ชักโครก นางฉีดน้ำได้แบบอ่อนแรงมาก
หลังจากนั้นก็รอแฟนอาบน้ำ แล้วไปหาอะไรทานกัน
ขับรถย้อนกลับไปทางที่มา มองหาร้านอาหาร
สรุปเลือกทานอาหารอีสาน ซึ่งไม่ไกลจากที่พัก
เป็นร้านข้างทางธรรมดา แต่อาหารถือว่าอร่อยเลย
ทั้งหมดนี้ 220 บาทค่ะ
ทานเสร็จก็แวะซื้อขนมเซเว่น และหาซื้อกางเกงว่ายน้ำให้แฟน
เพราะเห็นสระว่ายน้ำสวยๆแบบนี้ใครจะอดใจไหว
กลับที่พักเตรียมเล่นน้ำกัน >w<
ลงสระประมาณ 15.45 น.
มีคู่รักฝรั่งอยู่ก่อนแล้วคู่หนึ่ง บรรยากาศดี เงียบสงบมากๆ
ไม่นานฝรั่งคู่นั้นก็กลับออกไป ทำให้เรากับแฟนครองสระน้ำ5555
ทุกอย่างเงียบและเป็นส่วนตัวมากๆ แถมวิวที่เห็นแล้วฟินเวอร์
เค้ามีอ่างจากุชชี่ด้วยนะคะ เปิดปิดน้ำวนได้ แต่บางทีเค้าตัดไฟค่ะ
สระว่ายน้ำจะเปิด 08.00 - 18.00 น.
5555555 โชว์หลังพอ อันนี้ตั้งใจจะให้โฟกัสที่วิวนะเอ้ออออ
เล่นน้ำกันไม่นาน ก็เดินลงไปหาดกันจ้า
มีแต่ชาวต่างชาติไม่กี่คน ฟีลหาดส่วนตัวสุด
แอบเห็นได้ว่าฝนกำลังจะมาแล้วนะ!
เดินไปทางซ้ายจะติดกับรีสอร์ทอื่นที่อยู่หาดไก่แบ้
เดินกลับมาทางรีสอร์ทที่พัก
อันนี้เป็นรีสอร์ทโซนที่อยู่บนภูเขา
จะมีโซนที่อยู่ด้านล่างด้วย แต่ห้องที่เรานอนจะอยู่บนภูเขาจ้า
แล้วเราก็เดินกลับขึ้นข้างบน เหนื่อยอยู่นะ5555
แฟนอยากโดดสระอีกก็เลยแวะเล่นสระต่อ
แล้วก็เปิดจากุชชี่นั่งแช่ สบายตัวกันไป
โอ้ยยยย ชอบวิวม๊ากกกกกกกก
ตอนแรกตั้งใจจะรอดูอาทิตย์ตก แต่เพิ่งจะ 17.00 น.
เลยเล่นกันแปปนึง แล้วกลับเข้าที่พักไปอาบน้ำกันก่อน
พออาบเสร็จ ฝนตกหนักเลยจ้า
นั่งรอฝนหยุดกันอยู่ที่โถงหน้าห้อง
18.10 น. ฝนเบาลงเหลือแค่ลงเม็ดๆนิดหน่อย
อันนี้เป็นส่วนของอ่างจากุชชี่ที่อยู่ติดกับสระน้ำ
มีนางแบบ 1 คน 55555555
ร่มอันนี้มีให้ในห้องพักค่ะ มี 2 คัน
หันกลับมามองสระว่ายน้ำ
แล้วพระอาทิตย์ก็ลับขอบฟ้า
เวลา 18.27 น.
หลังจากนั้นเราก็กลับเข้าห้องพัก แล้วก็หลับกันเลยทีเดียว
เพราะว่าเมื่อคืนไม่ได้นอน และทั้งวันนี้ก็ตื่นเต้นกันทั้งวัน5555
ตื่นมาอีกทีประมาณ 2 ทุ่ม ฝนตกหนักอยู่ แต่หิวมาก
ขับรถฝ่าฝนกันออกไป ทานชายสี่หมี่เกี๊ยว แบบไม่คิดอะไรมากแล้ว
เพราะฝนตกหนัก ยิ่งนั่งทานยิ่งตกหนักขึ้นๆๆ
ราคาชามนึงที่นี่จะแพงกว่าปกติอ่าแหละ 2 คน จ่ายไป 90 บาท
แล้วก็ฝ่าฝนกลับที่พัก พักผ่อนกัน
10 พ.ค. 2560
ตั้งนาฬิกาปลุกไว้ 7 โมงเช้า เพื่อจะไปทานอาหารเช้า
สรุปเลทจ้าาา ลงไปประมาณ 9 โมง มีเวลาทาน 1 ชั่วโมง
ตอนเช็คอินพนักงานแจ้งว่า อาหารเช้าจะเป็นแบบให้เลือก
เพราะมีแขกเข้าพักน้อย แต่วันที่ไปทานอาหารเช้า
กลับเจอบุฟเฟ่ต์จ้า คงมีแขกมาเพิ่มเรื่อยๆ ส่วนใหญ่เป็นต่างชาติ
มีคนไทยประมาณ 2 - 3 ครอบครัว
ด้านหน้าห้องอาหาร
เดินเข้ามาจะเจอพวกกาแฟ โอวัลติน ซีเรียลก่อน
จะมีนม น้ำส้ม น้ำเปล่า ให้เลือกกดได้เอง
อันนี้เป็นข้าวสวย ข้าวผัดต้มยำ โซนนี้อาหารจะดูเย็นชืดมากๆ เลยไม่ได้ทาน
ขนมปังนี่จะมีที่ปิ้งให้ด้วยนะ แต่ปิ้งได้แบบ ข้างนอกเกือบไหม้ แต่ข้างในขนมปังนี่ไม่ร้อนเลย555555555
มีพนักงานทำออมเล็ต แพนเค้ก ให้ทานร้อนๆ ออมเล็ตอร่อยดีด้วยนะ
มองไปด้านหน้าห้องอาหาร จะเห็นทะเล
ห้องอาหารด้านข้าง
ทานเสร็จก็ออกมาถ่ายที่หาดกันอีกนิดหน่อย
เดินเล่นชิวๆ ไม่อยากออกจากรีสอร์ทเลย TT
เช้านี้น้่ำทะเลสีสวยมากกกกกก
มุมนี้จากสระว่ายน้ำบนเขาค่ะ
หลังจากนั้นเราก็เข้าห้อง อาบน้ำแต่งตัวเก็บของ
ออกจากที่พักประมาณ 11.30 น.
พอดีเจอป้ายทางลงหาดสาธารณะ เลยจอดรถลงไปกัน
เป็นบริเวณ หาดทรายขาว
ถ่ายรูปไว้ไม่เยอะเนอะ เพราะแดดออกแรงมาก
ไม่สามารถยืนอยู่ได้ จึงต้องอพยพกลับไปขึ้นรถด่วนๆ
หลังจากนั้นเราก็มุ่งหน้าไปท่าเรืออ่าวธรรมชาติค่ะ
ซึ่งรถติด!!! จากการต่อแถวขึ้นเรือ ติดออกมาบนถนนยาวๆ
กว่าจะรอคิว ซื้อตั๋ว รอคิวขึ้นเรือ กว่าจะได้ขึ้นเรือ นานมากกกก
ได้ขึ้นเรือประมาณ 13.45 น.
เวลานี้สีน้ำทะเลสีฟ้าสดใสมาก เห็นแล้วเคลิ้ม อยากอยู่ตรงนี้ต่อไปไม่อยากกลับ 5555
เรือออกจากท่า ก็บอกลาเกาะช้างกันตรงนี้
ถึงจะเจอฝนตก แต่โชคดีที่เลือกตกเป็นเวลา5555
หลังจากนั้นเราก็จะเดินทางไปจันทบุรีต่อ
แต่ขอจบบล็อคนี้ไว้แค่เกาะช้างแล้วกันเนอะ
เดี๋ยวจะยาวเกินไปมากกว่านี้55555
สำหรับใครที่เข้ามาอ่านผิดพลาดยังไงก็ขออภัยค่ะ
ออกแนวเป็นไดอารี่มากกว่ารีวิวง่ะ -3-
กล้องที่ใช้ถ่าย
Canon EOS M10
Nikon D5100 (บางรูป,แฟนถ่าย)
สรุปค่าใช้จ่ายทั้งหมด
ค่ารีสอร์ท+อาหารเช้า 1,188 บาท
ค่าเรือไป-กลับ รวม 560 บาท
ค่าเข้าน้ำตกคลองพลู 40 บาท
ค่าอาหาร+เซเว่น รวมประมาณ 480 บาท
ค่ากางเกงว่ายน้ำ 250 บาท
ค่าแก๊สรถยนต์ จาก กทม-บางแสน-เกาะช้าง 600 บาท
(แค่ขับบนเกาะก็ผลาญแก๊สไปเยอะอยู่นะTT)
รวม(ไม่รวมกางเกงว่ายน้ำ) 2,868 บาท หาร 2 ตกคนละ 1,434 บาท
Contact Me
Twitter : https://twitter.com/nanaswiftks
E-mail : nanaswifty@hotmail.com