27 เมษายน 2560

Review&Swatch : ลิปจุ่มเนื้อแมท #รีวิวครั้งที่2 ☺


มาอีกแล้ว จริงๆมันเกิดจากการอยากถ่ายรูปล้วนๆ
ใช้ไฟใช้อะไรเหมือนเดิม เพราะหามุมถ่ายดีกว่านี้ไม่ได้แล้ว555
วันนี้ก็จะเอาลิปจุ่มแมทที่มีอยู่มาถ่ายและสวอชสีให้ดูกันนะคะ

เชื่อว่าหลายคนมีไม่รุ่นไหนก็รุ่นนึง เพราะราคาเบาๆ ไม่แพงเลย
ซึ่งลิปราคาน่ารักๆบางรุ่นคือคุณภาพเทียบเท่าราคาแพงๆแม่ๆ
ไรงี้เลยนะเอ้อ!
สำหรับลิปที่จะรีวิวในวันนี้มี 6 แบรนด์นะคะ

1. The Balm  Meet Matt(e) Hughes
2. NYX  Soft matte lip cream
3. Cute Press  Beauty and The Beast Comfort Matte Liquid Lip
4. Ultra Matte Liquid Lipstick By Naree
5. IN 2 IT  Liquid Matte
6. NANI Somatte Original



1. The Balm  Meet Matt(e) Hughes


สี Charming - ได้มาจากเพื่อนที่สั่งเซตมินิมา (100 กว่าบาท) ในเซตชอบสีนี้มากที่สุด สีชมพูที่ไม่ชมพูจ๋าเกินไป ออกชมพูเข้ม ซึ่งผิวคล้ำทาได้ เนื้อสีชัดและเนื้อเยอะมากสำหรับปริมาณ 1.2 ml  มีกลิ่นหอมเหมือนขนม หัวแปรงทาง่าย ไม่ก๊องแก๊ง จิ๋วแต่แจ๋ว เห็นขนาดเท่านี้ ใช้ได้นานนะจ๊ะ

ความติดทน - ทานข้าวแล้วแทบไม่หลุด คือทานข้าวเสร็จไม่ต้องเติมสีก็ได้ เป็นสีที่เช็ดออกยากที่สุดในบรรดาที่รีวิวในนี้ ทาบ่อยแต่ยังไม่หมดเลยจ้าาา

มาดูสวอชสี แสงธรรมชาติ กับเพิ่มแสงไฟ



2. NYX  Soft matte lip cream



สี Rome - เป็นไซส์มินิ (ซื้อแยก 100 กว่าบาท) ซื้อแบ่งขายจากเซตใหญ่ ปริมาณ 4.7 ml เป็นปริมาณที่มากกว่า The Balm ข้างบน แต่เนื้อน้อยมากๆ จุ่มออกมาแล้วสีน้อย สีไม่ชัด ซึ่งสีนี้สีสวยนะคะ ถ้าซื้อเป็นแบบปริมาณปกติ สีจะสวยมาก (เดี๋ยวจะซื้อขนาดปกติมาใช้ละ) สีจะเป็นชมพูๆอมม่วง ไม่เข้มมาก สีสุภาพ ทาได้ทุกโอกาสและทุกสีผิว

จะเห็นว่าสีสวอชในรีวิวอ่อนมาก นั่นคือทาจุ่มสีมาไม่ได้แล้ว น่าจะหมดแล้ว ซึ่งตอนเพิ่งได้มาก็จุ่มสีออกมาอ่อนมากๆ สวอชออกมาได้แค่นั้นจริงๆจ้า

ความติดทน - ด้วยรุ่นนี้เป็นเนื้อครีมแมท ทาแล้วจะแห้งแต่ยังชุ่มชื่น เวลาทานข้าวสีจะหลุดบริเวณปากด้านใน แต่หลุดไม่เยอะ เติมสีนิดเดียวก็กลับมาสวยปกติ (ไซส์มินิหักคะแนนไปเยอะเลย เนื้อสีปริมาณเทียบกับ TheBalm อันนี้กากมากบอกตรงๆ)
สี Budapest - ไซส์ปกติ (295 บาท) สีคล้าย Rome แต่เข้มและออกม่วงมากกว่า แต่แพคเกจข้างนอกสีจะคล้ายกันมากกก (แฟนเห็นละถามว่าซื้อสีเดียวกันมาทำไม!5555)  สำหรับเนื้อสีนั้นแน่นอนว่าแน่นกว่าคุณมินิข้างบนแน่นอน เนื้อครีมตามแบบของ soft matte ทาแล้วสีเข้ม กลบปากคล้ำมิด ทาได้ทุกสีผิว

ความติดทน - เหมือนสีด้านบนนะค้า

มาดูสวอชสี แสงธรรมชาติ กับเพิ่มแสงไฟ



3. Cute Press  Beauty and The Beast Comfort Matte Liquid Lip

อันนี้ต้องมีรูปแพคเกจด้วยนะ555


สี 03 My Beast - รุ่นนี้คือใช้แฟนไปซื้อวันขายวันแรกเลยจ้า (259 บาท)  กลัวของหมดมาก  ยอมแพ้แพคเกจ กล่องเค้าสวยมากนะ ยังไงก็ทิ้งไม่ได้จริงๆ5555  สีนี้นี่คือสีเข้มสุดในเซตรุ่นนี้นะคะ แล้วคิดว่าสีนี้ทาแล้วจะรอดที่สุดเลยเลือกมาแค่สีนี้  สีออกแดงน้ำตาล สวอสแล้วจะออกแดงน้ำตาลอิฐๆนิดนึงด้วยนะ เป็นเนื้อแมท ติดทนดีค่ะ เม็ดสีชัดและแน่น เข้มข้น กลบปากคล้ำมิดแน่นอน ทาแล้วดูแพง เป๊ะปัง

ความติดทน - ติดทนดีมาก ทานข้าวแล้วยังอยู่เลย แห้งช้านิดนึงเพราะเนื้อข้นสีชัดเจน
ส่วนหัวแปรงนี่ชอบมาก ทาปากทาง่าย เข้ามุมปากได้ดี ไม่ก๊องแก๊งแน่นอน คุณภาพเกินราคา

มาดูสวอชสี แสงธรรมชาติ กับเพิ่มแสงไฟ
 




4. Ultra Matte Liquid Lipstick By Naree


สี 911 Myself - น้อง Naree ที่ตอนนี้กำลังมา เนื่องจากสีเยอะและราคาถูก! ซื้อจาก Eveandboy (โปรลดราคา 159 บาท)  เป็นสีส้มอิฐ ไม่แปร๋นเกิน สีกำลังดี แห้งไว ทาแล้วดูเปรี้ยวๆ แพคเกจถือว่าดีไม่อ่อนแอ มีกล่องด้วยแต่ทิ้งไปแล้วง่ะ อันนี้ผิวคล้ำมากทาแล้วอาจจะลอยนะคะ แต่ส่วนตัวแล้วทาแล้วกำลังดีเลย แบรนด์นี้คุ้มมาก ราคาถูก เนื้อสีดีสีชัด มีสีให้เลือกเยอะ ทาแล้วมันเหมือนจะเย็นๆปากนิดนึง

ความติดทน - ทานข้าวแล้วหลุดเยอะอยู่ค่ะ ต้องเติมเวลาเพิ่งทานอะไรเสร็จ แต่ไม่เป็นไร ให้อภัย ทาบ่อยมากเพราะสีสวย ทาแล้วดูชิคๆ ตอนนี้เป็น 1 ในลูกรัก5555

มาดูสวอชสี แสงธรรมชาติ กับเพิ่มแสงไฟ




5. IN 2 IT  Liquid Matte


สี 04 regal - ตัวนี้กำลังมาแรง รีวิวเยอะมากกก ตอนแรกตั้งใจจะไปซื้อสีที่ออกน้ำตาลส้ม แต่มันหมดเลยเอาสีนี้ก็ได้ (ราคา 179 บาท) เป็นสีแดงเข้มออกชมพู เนื้อสีแน่นชัด กลบปากคล้ำมิด ผิวคล้ำทาได้นะ สวยๆดูเผ็ชๆ ออกงานกลางคืนนี่เหมาะมากๆค่ะ

ความติดทน - ติดทนอยู่นะ ทานข้าวแล้วก็มีหลุดนิดเดียวเอง บางทีไม่หลุดเลยไม่ต้องเติมสีก็ได้ ติดอย่างเดียว แห้งช้าค่ะ เนื้อมันจะเป็นน้ำๆนิดนึง เวลาทาไปแล้วจะลื่นๆวาวๆก่อน แล้วจะค่อยๆแห้งจนแมท
ส่วนแปรงอันนี้ดีงาม ทาง่าย คล้ายๆCute pressข้างบน และแพคเกจก็ดีงามเช่นกัน ดูทนทานและสวย

สวอชสีตรงเพิ่มแสงไฟ สีจะอ่อนแล้วดูแปร๋นๆ แต่จริงๆไม่ขนาดนั้นนะ ก็เหมือนแสงธรรมชาติเลย คือจะเป็นสีแดง ไม่ใช่ชมพูอ่อน แต่กล้องถ่ายออกมาแล้วอ่อนลงเยอะ

มาดูสวอชสี แสงธรรมชาติ กับเพิ่มแสงไฟ





6. NANI Somatte Original



สี 01 Hollywood Glam - แพคเกจใหม่ ใช้แต่ตั้งเป็นแพคเกจเก่าเบอร์ 30 (180 บาท) ลูกรักที่สุด ทาบ่อยที่สุดในบรรดารีวิวในนี้ ทาได้ทุกงาน ทุกที่ สีสุภาพ ไม่มีทาแล้วป่วยแต่อย่างใด จะเป็นสีชมพูนู๊ด กลบปากคล้ำมิด ทาแล้วไม่ลอย

ความติดทน - ติดทนดีมาก จะหลุดก็เวลากินอะไรหนักๆเช่น หมูกระทะ5555 ถ้ากินแบบข้าว ขนม อะไรแบบนี้ ไม่หลุดนะจ๊ะ เนื้อแห้งไวมาก อยู่ได้ทั้งวัน นี่ไม่ได้อวยอะไรขนาดนั้นนะ แต่พูดตามจริงที่เคยใช้มาแล้ว 2 แท่ง หมดแล้วซื้อต่อแน่นอน
สี 33 Poison Berry - เป็นแพคเกจเก่านะคะ อันใหม่จะเปลี่ยนเป็นเบอร์ 10 จ้า เป็นสีแดงเลือดหมู เข้มมาก เผ็ชเวอร์อะไรเวอร์ ไม่ค่อยได้ทาเพราะมันแบบเข้มไง ไว้ทาไปเที่ยวไปงานอะไรงี้เนอะ555 ทาได้ทุกสีผิวค่ะ เริ่ด

ความติดทน - เหมือนสีด้านบนนะคะ

มาดูสวอชสี แสงธรรมชาติ กับเพิ่มแสงไฟ



** จบแล้ววว รีวิวครั้งที่2 รีวิวไม่ดียังไงขออภัยค่า เน้นอยากถ่ายรูปและอยากอัพบล็อคเฉยๆ55555 ต่อไปจะมีบล็อคไปเที่ยวด้วยนะ เดือนหน้ามาแน่นอน**







Contact Me




Review&Swatch : รีวิวครั้งแรก Revlon Lipstick




รู้สึกอยากถ่ายรูปลงบล็อค
เลยจะลองรีวิวอะไรซักอย่างดู
ก็เลยหยิบ REVLON ที่มีอยู่มาลองถ่ายจ้าาา



สำหรับลิปที่เค้ามีอยู่นั้นจะมี 2 รุ่น คือ
Revlon Matte Lipstick →→ เนื้อแมท
เนื้อแมทนี่จะแมทจริงๆ ถ้าปากแห้งจะทายากมาก ต้องทาลิปมันก่อน เนื้อสีชัดและปิดสีปากมิด

Revlon Super Lustrous Lipstick Creme →→ เนื้อPearl จะครีมๆวาวๆ
เป็นเนื้อที่ทาง่ายเวอร์ ง่ายสุดๆ หลุดง่ายเช่นกัน5555 แต่ไม่ง่ายขนาดนั้นจ้า เนื้อสีวาว กลบสีปากค่อนข้างดี ทาแล้วสวย

สังเกตจากแถบสีแท่งลิป ตัวเนื้อแมทจะสีเงิน ส่วนเนื้อครีมจะสีทอง
ของเค้ามี 5 สีจ้า(หายไปสีนึงTT)



และนี่คือสีที่มี




มาดูสีกันดีกว่า
ชื่อสีนับจากสีแรกทางซ้าย

356 - Suede
130 - Rose velvel
003 - Mauve it over
008 - Cocoa craving
009 - Fabulous fig


สวอช ถ่ายสีธรรมชาติ

โดนแสงไฟ


356 - Suede  เนื้อครีมที่มันจะวาวๆ สีออกส้มที่สุภาพ ทาได้หลายโอกาส แต่ในภาพที่โดนแสงไฟจะดูแบบนีออนๆมะ 5555 คือเนื้อมันวาวเลยทำให้สะท้อนกับแสงไฟเลยออกนีออนนิดๆ ซึ่งจริงๆไม่ได้ขนาดนั้นนะ

130 - Rose velvel  เนื้อครีมอีกสี สีสุภาพนู๊ดน้ำตาล อันนี้ทาบ่อยเพราะทาแล้วเข้ากับผิว(ผิวเค้าจะไม่ขาวมากและไม่คล้ำมาก เอ๊ะยังไง!!55) ทาแล้วสวยอ่ะ ไม่ลอยไม่อะไร

003 - Mauve it over  อันนี้เนื้อแมทสีนู๊ด นู๊ดจริงๆ แต่ไม่ป่วยนะจ๊ะ แต่ก็จะเหมาะกับผิวขาวๆหน่อย นี่ทาแล้วแอบลอยนิดๆแต่ไม่มากยังรอดอยู่555 ถ้าคนขาวๆทาจะสวย แต่ถ้าปากคล้ำจะกลบสีปากไม่มิดนะจ้ะสีนี้


008 - Cocoa craving  มาแล้ว สีที่ชอบที่สุด ทาบ่อยสุด(สังเกตจากแท่งลิป) จะเป็นน้ำตาลๆ อมพีชส้มๆอ่ะ ไม่เข้มมาก ผิวขาวทาอาจจะเข้มนะ ถ้าผิวไม่ขาวออกคล้ำทานี่ยิ่งสวย แนะนำ ชอบ5555


009 - Fabulous fig  ความคุณนาย ความเข้มสุด ซื้อมาแบบตอนนั้นอยากได้สีเจ็บๆ ก็ได้สีนี้มา สีแดงเข้มๆอมม่วงนิด ทาแล้วแซ่บแน่นอน เนื้อแมทติดค่อนข้างดีอยู่แล้ว ทาสีนี้ไปเกิด เหมาะสำหรับออกงานราตรี หรือสาวๆท่องราตรี5555 บายเนียร์ หรืองานที่ไม่จำเป็นต้องสุภาพ



    สำหรับลิปสติกที่ราคาไม่ถึง 200,  Revlon ถือว่าตอบโจทย์สุด สีเค้าก็เยอะน้า แถมมีแบบครีมและแบบเนื้อแมท ใช้แทนยี่ห้อดังได้หลายสีเลย ซึ่งก็ฮิตกันอยู่แล้ว โดยเฉพาะวัตสัน ชอบจัดโปรลดราคาเรื่อยๆ ไปตำกันได้รัวๆเลย

**เป็นการรีวิวของครั้งแรกเลยก็ว่าได้ จริงๆตั้งใจจะสวอชทาปากไปเลย แต่ถ่ายออกมาไม่โอเคจริงๆ เลยทำแบบนี้ไปก่อนเนอะ ถ้าใครได้อ่านก็ขอบคุณมากๆที่เข้ามาอ่านนะค้า ผิดพลาดประการใดขออภัยจ้า**

Contact Me

04 เมษายน 2560

เก็บบรรยากาศ บ้านน้ำเชี่ยว อ.แหลมงอบ จ.ตราด

ฮัลโหล ทุกคน! ไม่ได้ทำบล็อกมานานมากๆ ร่วม5-6 ปี (ทำไมนาน5555) ช่วงนี้เพิ่งเริ่มว่างแล้วไม่มีอะไรทำ มาปัดฝุ่นบล็อกแบบงงๆ ลืมไปแล้วว่าทำไง เริ่มไงก่อน นึกไม่ออก5555
อยากทำแบบรีวิวเครื่องสำอาง+ไปเที่ยว แต่เดี๋ยวรอซื้อกล้องใหม่ก่อน จะสิงบล็อกกับเค้าบ้าง

โอเค ในส่วนของวันนี้ ตอนนี้นั้น ก็เอาประสบการณ์สดๆร้อนๆมาเล่าให้ฟังแล้วกัน
ก็จะมาพูดถึง



บ้านน้ำเชี่ยว ที่อำเภอแหลมงอบ จังหวัดตราด นั่นเอง!

    จะบอกว่านี่เป็นการไปลงพื้นที่ศึกษาของ วิชาชุมชนศึกษา ของเราเอง อาจารย์เป็นคนติดต่อและพาพวกเราไป เป็นเวลา 2 วัน 1 คืน ซึ่งก็เสียกันไปทั้งหมด 1500 บาทถ้วน อาจารย์ได้แจ้งว่ากลุ่มชาวบ้านนั้นเก็บพวกเราคนละ 990 บาท ทั้งหมดนี้จะรวมที่พัก งอบ(ที่จะแจกทุกคนคนละใบ) ที่พักจะพักแบบโฮมสเตย์ อาหารหลัก 4 มื้อ และอาหารว่างด้วย ซึ่งที่เหลือนั้นจะเป็นค่ารถทัวร์ที่พาเราไปจ้า




               ⚫ Day 1  26 มี.ค. 2017

อาจารย์นัดเช้าสุด ให้ไปขึ้นรถที่หน้าคณะ รถออก 6 โมงเช้า ! เกือบสายมากๆ เพราะหาพี่วินไม่ได้เลยจ้าสรุปรถออก 6 โมงกว่าๆ พร้อมกับความง่วง เพราะถือว่าไม่ได้นอน เพราะนอนแล้วนอนไม่หลับ
เค้าบอกว่าจะแวะที่แรกก่อนคือ ชุมชนขนมแปลก ริมคลองหนองบัว จ.จันทบุรี
น่าจะประมาณ 10 โมงครึ่งได้ อากาศค่อนข้างร้อน ตลาดยังไม่ค่อยมีอะไร และที่สำคัญ
แทบไม่ได้ถ่ายรูปเลย555555
ยังไงก็จะลงเท่าที่มีนะจ้ะ




อันนี้เพื่อนแอบถ่ายหลัง5555 จะเห็นเลยว่าตลาดยังไม่ค่อยมีอะไรเยอะแยะมากมาย อาจจะเช้าไปนิด แต่มีของกินแล้วนะ
มีขนมที่ไม่ค่อยมีให้เห็น แล้วก็มีสอนทำขนมด้วย




อันนี้อร่อยยยยยยย อะไรจ๊อจำไม่ได้ น่าจะหอยจ๊อ ถ้าไม่ใช่ก็อาจจะปู-3-  จัดไป 2 ถ้วย (แต่ซื้อคนละร้าน)



หาอะไรกินกันเสร็จ ขึ้นรถจ้า ไปยาวๆจนถึงตราดกันเลยทีเดียว มีความง่วงมาก ง่วงสุด คอพับกันไปข้าง


แล้วก็มาถึงตราดซะที ถึงบ้านน้ำเชี่ยว ประมาณบ่ายโมงนิดๆ

สิ่งแรกที่ทำตอนลงจากรถเลยคือ มีชาวบ้านน้ำเชี่ยวมารอรับเลยค่า มีการให้แบ่งกลุ่มเพื่อที่จะส่งไปบ้านแต่ละหลังที่เป็นโฮมสเตย์ ซึ่งชาวบ้านบริหารจัดการดูแลกันเอง  เค้าจะให้เราแบ่งกลุ่มประมาณ 4-6 คน แล้วจะพิจารณาว่าจะให้ไปอยู่บ้านพักหลังไหน ให้เหมาะกับจำนวนคน

สิ่งแรกที่ควรรู้เลย คือ ชาวบ้านที่นี่นับถือศาสนาอิสลาม ค่า ไม่มีเมนูหมูแน่นอนนนน
แต่ในชุมชนเนี่ย ก็จะมีทั้งไทยพุทธ ไทยอิสลาม รวมถึงไทยจีนด้วยนะ
เป็นที่มาของสโลแกน  2 ศาสนา 3 วัฒนธรรม ของเค้าแหละ
และในชุมชนเค้าจะมีทั้ง มัสยิด วัด และศาลเจ้าจีน ครบเลย

เมื่อไปถึง เค้าจะให้เอาของไปเก็บที่บ้านก่อน กลุ่มของเราแบ่งกลุ่มนอนได้ 4 คน เค้าจะยังไม่พาไปบ้านพัก แต่จะให้เอาของไปเก็บในบ้านอีกหลังก่อน แล้วเปลี่ยนชุด สำหรับไป งมหอย!!!!
แต่ก่อนอื่น เราจะไปทานข้าวกลางวันกันก่อนจ้าาาาา


ภาพถ่ายจากบนสะพานวัดใจ แลนด์มาร์คของบ้านน้ำเชี่ยว
กำลังเดินไปทานข้าวกล้างวัน

คือไม่ได้ถ่ายภาพสะพานวัดใจมุมนี้มาเลย เลยขออนุญาตยืมภาพมาให้ดูก่อนนะคะ
แลนด์มาร์คบ้านน้ำเชี่ยว สะพานวัดใจ
ที่มา : https://www.thetrippacker.com

และนี่ คืออาหารกลางวัน ซึ่งเป็นมื้อแรกของที่บ้านนำเชี่ยว จะเห็นว่าเป็นอาหารทะเลหมดเลยแหละ ไข่เจียวนั่นคือไข่เจียวกุ้ง ส่วนแกงเขียวหวานนั่นก็ ลูกชิ้นปลาจ้าาา บนโต๊ะทานข้าวจะนั่งกันไม่ได้ 8 คนต่อโต๊ะ


จะบอกว่าชาวบ้านเทคแคร์ดีมากๆ ขยันเติมกับข้าวให้สุดๆ แบบชามไหนจะหมดจะมาหยิบไปเติมให้ละ ละพอเติมมาก็จะกินไม่หมด โอ๊ยยย เสียดาย55555555

พอทานเสร็จ อิ่มแล้ว ก็จะเตรียมลงเรือไปงมหอยกัน!! (เรือ 1 ลำนั่ง 4 คน)
ไม่ได้ถ่ายรูปเรือมาเลย มีแต่รูปตอนกำลังนั่งในเรือ ตอนนี้ืคือ อากาศร้อนสุด





สองข้างทางจะเป็นป่าชายเลน บนเรือจะนั่ง 4 คน พร้อมคนขับเรือ และผู้ช่วย(น่าจะ) 1 คน
เรือของเราเป็นน้องผู้หญิง ระหว่างนั่งเรือ น้องเค้าจะพูดเกี่ยวกับ บ้านน้ำเชี่ยวให้ฟังด้วย

เค้าจะพาเราไป งมหอย กันก่อน หอยที่ว่าคือ หอยปากเป็ด
บอกตรงๆว่าไม่ชอบลักษณะของมันเลยจริงๆ แอบขนลุกนิสนุง 55555555

ก็นั่งเรือประมาณ เกือบๆครึ่งชั่วโมงได้ เค้าจะพาเราออกจากคลอง ไปสู่กลางทะเล อิอิ
(แอบมองเห็นเกาะช้างไกลๆด้วย)

นั่นคือเกาะช้างแหละ


พอถึงจุดที่งมหอย คนขับเรือจะทิ้งสมอ แล้วโดดลงน้ำก่อนเลย สาธิตการงมหอยให้พวกเราดูกันก่อน555555
นี่แน่ะ หอยปากเป็ดนะหนูๆ



ความลึกของน้ำเนี่ย น่าจะประมาณเกือบถึงหน้าอก (สำหรับเค้าไม่แน่ใจ เพราะไม่ได้ลงไปงมง่ะ5555)
คุณลุงเค้าจะดำน้ำมุดไปเลย ละขึ้นมอพร้อมหอยเป็นกำมือ ในขณะที่เด็กๆเค้าจะให้ใช้เท้า
ความๆหาหอยใต้น้ำกันไป ละหนีบๆขึ้นมา
บางคนลงไปนานมากได้มา 2 ตัว คือบับบ55555555


บรรยากาศเพื่อนๆลำอื่นๆ โดดน้ำกันหนุกหนาน


หลังจากนั้นกรุ๊ปของเรือเรา คนขับเรือพาออกมาก่อนเพราะไม่มีใครลง
เป็นโรคกลัวน้ำกันไปหมดเลยทีเดียวเชียว เออ555

ลุงเค้าก็พาเราไปปลูกป่าชายเลนกันซักหน่อย
ในระหว่างขากลับ เห็นได้ชัดว่า พายุกำลังจะมาจ้าาาาาาาาาา




ปลุกป่าชายเลนที่นี่ไม่มีอะไรมากเลย เค้าจะเตรียมกล้าไว้ให้เรา ละจอดแวะให้เราลงไปปัก ง่ายๆงงๆ
คนขับเรือก็จะลงไปปักให้ดูก่อน อธิบายนิดๆหน่อยๆ แล้วให้เราปักกล้าเลยจ้า





ปักกันเสร็จก็รีบกลับสิจ๊ะ!  ฟ้ามืดมากกกกกกกก
พอกลับไปถึงศาลากิจกรรม มีอาหารว่างรออยู่ด้วยแหละ อิอิ
เป็นขนมจีบ ไม่รู้ว่าจีบอะไร น่าจะปู ไม่ก็กุ้ง กินไปแล้วก็แยกไม่ออก ไม่รู้จริงๆ 555555
อร่อย และขอเพิ่มได้เหมือนเดิม แต่อยากกินกับน้ำจิ้มจิ๊กโฉ่วมากกว่าง่ะ



ในขณะนั้นเรือของเพื่อนๆลำอื่นก็ทยอยกันกลับมาถึงศาลา และมาทานอาหารว่างกัน


ทานเสร็จก็ให้ไปอาบน้ำแต่งตัว ฝนก็ตกพอดีจ้าาาา
ซึ่งการมาครั้งนี้ อาจารย์ก็พร้อมที่จะสั่งงานนิสิตทุกคน ร้องไห้หนักเวอร์
สืบเนื่องมาจากฝนตก อาจารย์จึงสั่งงานทางไลน์กลุ่มแทน นอนเล่นกันสบายไปเลย

มาดูบ้านพักโฮมสเตย์กันบ้าง เดินกลับไปขนของเข้าบ้านพัก เราได้พักบ้านคุณเมย์
เพื่อนกลุ่มอื่นๆก็จะแยกๆไป ใกล้บ้างไกลบ้าง
ในส่วนของที่พักของเรา มีที่นอน 4 ที่ พัดลม(แรงมาก) 2 ตัว ทีวี น้ำดื้ม มีเคาท์เตอร์วางกาน้ำร้อน
กาแฟ โอวัลติน พร้อมห้องน้ำ 2 ห้อง ห้องอาบน้ำ 2 ห้อง อ่างล้างหน้า พร้อม
เรียกได้ว่า ครบครันมากๆ ปลั๊กไฟก็มีปลั๊กพ่วงก็มีจ้าาา
และ ถ่ายรูปมารูปเดียว ใช้ไอโฟนถ่ายด้วย รกนิดนึงน้าาา


จะบอกว่าบรรยากาศในบ้านและหน้าบ้าน ดีมากๆ บวกกับฝนตก อากาศเย็นสบาย
อาบน้ำมีหนาวกันเลยทีเดียว(ไม่มีน้ำอุ่น และน้ำค่อนข้างไหลเบา บางทีไม่ไหลในช่วงที่ใช้น้ำกันเยอะ)

ในระหว่างนี้เรากับเพื่อนก็เริ่มสำรวจและทำงานตามที่อาจารย์สั่งกันไป
และที่ที่เราไปทำงานก็จะเป็นวัดน้ำเชี่ยว กับ ศาลเจ้าพ่อน้ำเชี่ยว(ศาลเจ้าจีน)

งานแต่ละคนเนี่ยจะเลือกทำคนละอย่างไม่ซ้ำกันจากที่อาจารย์สั่ง ของเราจะทำเรื่องศาลเจ้าพ่อน้ำเชี่ยว
จึงเอารูปมาให้ดูกันแค่ศาลเจ้าพ่อนะค้า

ป้ายศาลจะหามุมถ่ายยากมากๆ เพราะสายไฟ.....    อย่างที่เห็นเลยจ้า -.-





ในขณะที่ทำงาน เดินไปมา นี่ก็ฝนตกปรอยๆ(สุดท้ายกลับมาเป็นหวัดด้วย)
เสร็จแล้วก็กลับที่พักรอเวลาทานอาหารเย็นกันเนอะ

ซึ่งอาหารเย็นคือจะบอกว่า เต็มโต๊ะ และขยันเติมให้เหมือนเดิม
55555555555555555555

และที่สำคัญ อาหารทะเลเหมือนเดิมนะจ๊ะ
และจะมีเมนูหอยปากเป็ด ที่เราๆไปเก็บกันมานั่นแหละจ้า

นี่ยังไม่หมดนะ มีขนมหวานเป็นผลไม้ และน้ำจะมีชาดำเย็น ชาเขียว อิ่มพุงกันสุด (ดำๆชามนั้นคือ หอยปากเป็ด)

หลังจากทานเสร็จเนี่ย ก็จะเป็นเวลาของกิจกรรมของชาวบ้านนะคะ
จะมีชาวบ้านที่เป็นกลุ่มท่องเที่ยว มาบรรยายประวัติความเป็นมากันเล็กน้อย
ละบอกถึงการทำงานของชาวบ้านในเรื่องต่างๆ เช่น ฝ่ายกิจกรรม ฝ่ายโฮมสเตย์ อื่นๆ

และมีการแสดงลิเกฮูลู ของเด็กๆบ้านน้ำเชี่ยวด้วยนะ
(ไม่ได้ถ่ายรูปเลย เสียใจT^T ถ่ายแต่คลิป)

ละก็ชาวบ้านจะแอบเลือกเพื่อนๆเรา 6-7 คน ไปแต่งชุดของอิสลาม และให้มาเต้นลิเกฮูลูสร้างสีสันไปอีก
หลังจากนั้นก็ปล่อยให้อาจารย์คุยด้วยอีกแปป แล้วก็ปล่อยกลับไปพักผ่อนตามบ้าน
หลับไวมากๆเพราะตื่นเช้า และแทบไม่ได้นอนจริงจัง




               ⚫ Day 2  27 มี.ค. 2017

สืบเนื่องจากมีการนัด 7 โมง คุณป้ามาปลุก 6 โมงกันเลยจ้าาาา
และที่สำคัญ ฝนตก เสียงฝนมันช่างดึงดูดให้นอนต่อ ไม่คุยลุกออกไปไหนเลยจริงๆ โถ้

เพื่อนๆก็ตกลงกันว่าล้างหน้าแปรงฟันพอ ยังไม่อาบน้ำ
พอออกไป เค้าอาบน้ำแต่งตัวกันหมดแล้วเด้อ จะรีบกันไปไหน มีเวลาอีกเยอะแยะ55555

อาหารว่างช่วงเช้า
โรตี และ โอวัลติน



ทานรอเพื่อนทยอยกันมา ต่อด้วยข้าวต้มกุ้งยามเช้ากันไปเลย
เติมได้เหมือนเดิม




หลังจากทานเสร็จ กิจกรรมช่วงเช้าจะเป็นสอนทำงอบ
ซึ่งงอบน้ำเชี่ยวนั้น เป็นของขึ้นชื่อของที่นี่ และของจังหวัดตราดด้วยนะเออ


เพื่อนถ่ายให้อีกแล้ววว อิอิ

แล้วก็จะมีสอนทำข้าวเกรียบยาหน้า ขนมขึ้นชื่อของบ้านน้ำเชี่ยวอีกแล้วววว

แต่เราไม่ได้อยู่ทำนะ พอทำงอบแล้วก็ขอตัวกลับไปอาบน้ำแต่งตัว
แล้วก็นอนเล่นๆในบ้านพักแปปนึง ก่อนจะออกไปทำงานที่อาจารย์ให้ทำต่อ

ขอยืมภาพ ข้าวเกรียบยาหน้า มาให้ดูกัน
ที่มา : https://sites.google.com/site/tour56020577/sinkha-ban-na-cheiyw



หลังจากนั้น เค้าก็ให้กลับมาเก็บของกัน โดยให้เวลาไปทำงานที่มอบหมายด้วย
อย่างที่บอก เราเองก็ไปกับเพื่อน ทำงานกันไป เดินวนไปมา ออกไปถนนเจอร้านขายงอบ
คือร้านสวย งอบสวย ใครไปเที่ยว น่าเข้าไปดูนะ เผื่อได้ของติดไม้ติดมือมา



แล้วหลังจากนั้น พอถึงเวลานัดก็จะให้ไปที่ศาลากิจกรรมอีกครั้ง เพื่อทานอาหารกลางวัน
พร้อมรับงอบ คนละ 1 ใบ อิอิ

อาหารกลางวันมื้อสุดท้ายก่อนกลับ ง่ายๆ


นี่คืองอบทรงที่เลือกมา เค้ามีมาแจกหลายทรงมากๆ เลือกเองได้เลยยยย

555555555555555 เขิน


พอได้งอบแล้ว ทุกคนก็ถ่ายรูปกันหนุกหนาน แล้วเตรียมตัวเดินทางกลับบางแสนกันนะคะ

สำหรับบ้านที่พักแต่ละหลัง นอกจากเจ้าของจะดูแลเราอย่างดีแล้ว
เค้าจะมีสมุดเล่มนึง ให้เราเขียนความรู้สึกไว้ให้เค้า คือจะมีของกลุ่มก่อนหน้านี้ที่มา
เค้าก็จะเขียนไว้ทุกอย่าง ที่นี่ถือว่ามีความเป็นกันเอง แล้วดูแลเรา ใส่ใจเราด้วยนะ
ขนาดงานที่อาจารย์มอบหมาย เค้ายังอยากจะช่วยเรา และกระตือรือร้นมาก แบบอย่างจะช่วย
ทุกคนให้ความร่วมมือสุดๆ ประทับใจมากๆ


ลากันไปด้วย สะพานวัดใจ


มาอีกซักนิสนิง5555555555



ปล. ทุกภาพไม่ผ่านการแต่งแต่อย่างใด สดๆจาก Iphone6 + Nikon ของเพื่อนจำรุ่นไม่ได้ - -*
ยกเว้นภาพศาลเจ้าจีน แต่งเรียบร้อยเพราะทำงานส่งอาจารย์จ้า




สำหรับใครที่สนใจจะไปเที่ยว หรือไปลงพื้นที่ทำงานบลาๆๆ
สามารถติดต่อ กลุ่มท่องเที่ยวบ้านน้ำเชี่ยว ได้เลยนะ มีเพจ Facebook ด้วยจ้า
กดเลย





โพสต์แนะนำ

JOURNEY WITH ME : KANCHANABURI 1-2 SEP 2018

สวัสดีค่า 😃 ไม่ได้อัพบล็อคแบบนานมากๆ หลังจากที่อัพบล็อคทริปที่แล้ว (ก็ผ่านมานานมากแล้ว5555) ล่าสุดคือเรียนจบแล้ว และก็มีโอกาสไปเที่ย...